เมนู

อุรุ. ข้าแต่มหาสมณะ ข้าพเจ้าไม่หนักใจเลย แต่ในโรงบูชาเพลิง
นั้น มีพญานาคดร้าย มีฤทธิ์ เป็นอสรพิษ มีพิษร้ายแรง อย่าเลย มันจะ
ทำให้ท่านลำบาก.
แม้ครั้งที่สาม พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสแก่ชฎิลชื่ออุรุเวลกัสสปว่า
ดูก่อนกัสสป ถ้าท่านไม่หนักใจ เราขออาศัยอยู่ในโรงบูชาเพลิงสักคืนหนึ่ง.
อุรุ. ข้าแต่มหาสมณะ ข้าพเจ้าไม่หนักใจเลย แต่ในโรงบูชาเพลิงนั้น
มีพญานาคดุร้าย มีฤทธิ์ เป็นอสรพิษ มีพิษร้ายแรง อย่าเลย มันจะทำให้
ท่านลำบาก.
ภ. ลางทีพญานาคจะไม่ทำให้เราลำบาก ดูก่อนกัสสป เอาเถิด ขอ
ท่านจงอนุญาตโรงบูชาเพลิง.
อุรุ. ข้าแต่มหาสมณะ เชิญท่านอยู่ตามสบายเถิด.
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าไปสู่โรงบูชาเพลิง แล้วทรงปู
หญ้าเครื่องลาด ประทับนั่งคู้บัลลังก์ ตั้งพระกายตรง ดำรงพระสติมั่น.

ปาฏิหาริย์ที่ 1


[38] ครั้งนั้น พญานาคนั้นได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าไป
ดังนั้น ครั้นแล้ว มีคาวามขึ้งเคียดไม่พอใจ จึงบังหวนควันขึ้น ลำดับนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงดำริว่า ไฉนหน่อ เราพึงครอบงำเดชของพญานาค
นี้ด้วยเดชของตน ไม่กระทบกระทั่งผิวหนึ่ง เนื้อ เอ็น กระดูก และเยื่อใน
กระดูก ดังนี้ แล้วทรงบันดาลอิทธาภิสังขารเช่นนั้น ทรงบังหวนควันแล้ว
พญานาคนั้นทนความลบหลู่ไม่ได้ จึงพ่นไฟสู้ในทันที แม้พระผู้มีพระภาคเจ้า
ก็ทรงเข้ากสิณสมาบัติมีเตโชธาตุเป็นอารมณ์บันดาลไฟต้านทานไว้ เมื่อทั้งสอง